โลกนี้ยังมีจุดหมายปลายทางที่น่าอัศจรรย์มากมายซึ่งยังไม่เคยถูกบุกรุกโดยนักท่องเที่ยวอีกมั้ยนะ?
จากคำถามนี้ทำให้เว็บไซต์ Quora ได้ทำการสำรวจจบพบกับสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวลึกลับที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก 23 แห่งทั่วโลก
อัญมณีที่ซ่อนตัวจากสายตาผู้คนนี้ ยังคงความสวยงามที่น่าค้นหา หากว่าคุณคือหนึ่งในนักผจญภัยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในสถานที่ที่คนยังไม่ฮิตล่ะก็ เลื่อนลงไปดูพร้อมๆ กันเลย
“Hidden Beach” บนเกาะ Marieta เป็นชายหาดลึกลับที่มีน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้โดยการว่ายน้ำหรือพายเรือคายัคผ่านอุโมงค์น้ำ
Huacachina คือทะเลทรายโอเอซิสที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเปรู ห่างจาก Lima ออกไปประมาณ 5 ชั่วโมง แอ่งน้ำแห่งนี้เคยได้รับความนิยมสำหรับชนชั้นสูงที่มาจากบริเวณใกล้เคียงกับชนเผ่าอินคา แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นจุดแวะสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คที่มาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นบอร์ดทราย และการขี่รถบนเนินทราย
ผู้ที่แวะมาเยี่ยมชม Blagaj หมู่บ้านในบอสเนียและเฮิร์ซโกวีนา มักจะรู้สึกกลัวภาพแรกที่เห็นของ Blagaj Tekke ที่แห่งนี้คืออารามที่สร้างขึ้นสำหรับลัทธิ Dervish ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการตกแต่งภายในด้วยไม้หรือดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ในขณะที่นั่งชมแม่น้ำ Buna ที่สวยงาม
ทะเลสาบ Hillier ของออสเตรเลีย มีสีชมพูสดใสตลอดทั้งปี ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สีของทะเลสาบกลายเป็นสีชมพูนั้นคืออะไร แต่คนทั่วไปเชื่อกันว่าอาจจะมากจากปริมาณในทะเลสาบที่มีอยู่มากรวมกับมีแบคทีเรียสีชมพูอาศัยอยู่ด้วยก็ได้
รอยแยก Silfra ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Thingvellir ของไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งในสถานที่เดียวในโลก ที่นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำข้ามทวีปได้
ในปี 1600 Isola Bella ได้เปลี่ยนสิ่งที่เคยเป็นห้องหินอันแห้งแล้งกลางทะเลสาบ Maggiore ในอิตาลี ให้เป็นสวนสที่เบ่งบานพร้อมกับพระราชวัง นอกจากนั้นแล้วบริเวณนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อของสวนสไตล์บาร็อคที่งดงาม
หมู่บ้าน Popeye ของ Malta ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง “Popeye” ในปี 1980 บ้านเรือนถูกสร้างขึ้นจากต้นไม้ที่นำมาจากฮอลแลนด์และพร้อมกับสีอีก 2,000 แกลลอน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการนั่งเรือชมโรงกลั่นเหล้าองุ่นและน้ำ trampolines
Dongchuan Red Land ตั้งอยู่ในเมือง Xintian ในประเทศจีน ที่โด่งดังในเรื่องของสีแดงที่โดดเด่น เนื่องจากดินในบริเวณนี้มีธาตุเหล็กและแร่ธาตุที่เป็นตัวการทำให้เกิดสี และพืชที่ผลิบานตลอดทั้งปีช่วยเพิ่มสีสันให้ที่นี่เต็มไปด้วยความสวยงาม
ประตูสู่นรกตั้งอยู่ที่เมือง Derweze เติร์กเมนิสถาน เป็นหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญขณะที่มีการเจาะสำรวจก๊าซธรรมชาติ จนเกิดเป็นช่องทางให้ก๊าซแทรกขึ้นมายังผิวโลก เนื่องจากอันตรายจากก๊าซจึงต้องจุดไฟเพื่อทำการสลายก๊าซเหล่านี้ โดยคาดว่าคงจะดับได้ในไม่นาน แต่จนถึงปัจจุบันหลุมยักษ์นี้ก็ยังคงปล่อยก๊าซออกมาอย่างต่อเนื่อง
เกาะ Flores ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของหมู่เกาะ Azores นอกชายฝั่งของโปรตุเกส ชื่อนี้ได้รับการตั้งจากการที่มีดอกไม้ป่ามากมายรายล้อมอยู่ทั่วทั้งเกาะ นอกจากนี้ยังมีน้ำพุร้อนธรรมชาติและบึงน้ำเค็มที่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำเพื่อผ่อนคลายที่นี่ด้วย
Giola เป็นสระว่ายน้ำธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค Astris ของประเทศกรีซ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินไปตามทางเดินเพื่อเข้าไปพบกับ อ่างเก็บน้ำที่มีน้ำทะเลใสที่รออยู่ข้างใน
สถาปัตยกรรมนีโอโกธิคที่น่าทึ่งของ Las Lajas Sanctuary อยู่บนเส้นทางที่ต้องข้ามหุบเขาบนพรมแดนระหว่างโคลอมเบียและเอกวาดอร์ ทิวทัศน์ของพื้นที่สูงเหนือแม่น้ำที่อยู่ระหว่างหน้าผาอันเขียวชอุ่มและน้ำตกที่สวยงามช่วยจรรโลงใจให้ผ่อนคลายก่อนจะเข้าไปพบกับความงดงามของสถาปัตยกรรมภายใน
ในช่วงฤดูฝน อุทยานแห่งชาติ Lençóis Maranhenses ใน Maranhão ประเทศบราซิล จะเป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าไปมากที่สุด ด้วยปริมาณฝนที่ได้รับในแต่ละปี ทำให้เกิดสระว่ายน้ำขึ้นบนเนินทรายขนาดใหญ่ และกลายเป็นทะเลสาบนับพันแห่ง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าเยี่ยมชมคือระหว่างเดือนกรกฎาคม – เดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีน้ำเต็มสระมากที่สุด
Semuc Champey ของกัวเตมาลา คือสวรรค์สำหรับผู้ที่มองหาน้ำทะเลสีเขียวที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่ม เมื่อมาถึง คุณจะพบกับสะพานหินปูนพร้อมสระน้ำธรรมชาติหลายสระที่มีน้ำใสเย็นเหมาะสำหรับการว่ายน้ำ
แช่เท้าของคุณในบ่อน้ำพุร้อนของ Rotorua ซึ่งเป็นเมืองที่รู้จักกันในชื่อเขตน้ำพุร้อนและสระว่ายน้ำโคลนฟองของนิวซีแลนด์ ผู้เข้าชมสามารถเล่นกิจกรรมกีฬาทางน้ำได้หลากหลายในทะเลสาบที่มีอยู่หลายแห่งของที่นี่
Setenil de las Bodegas เติบโตขึ้นจากเครือข่ายถ้ำที่อยู่ในหน้าผาเหนือ Rio Trejo ในสเปน บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของบาร์และร้านอาหารที่มีทิวทัศน์สวยงามอีกด้วย
Namaqualand เป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ทอดยาวไปประมาณ 900 กิโลเมตรในนามิเบียและแอฟริกาใต้ ทุกฤดูใบไม้ผลิพื้นที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกเดซี่สีส้มและสีขาวทำให้เกิดภูมิประเทศที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ที่แห่งนี้ถูกค้นพบในปี 1836 โดยนายพรานชาวฝรั่งเศสชื่อ Grotte de St Marcel d’ Ardèche เป็นที่ตั้งเครือข่ายใต้ดินของอ่างเก็บน้ำและการก่อตัวของหินที่น่าทึ่ง
Rangiroa เป็นเกาะปะการังขนาดใหญ่รูปวงแหวนใน French Polynesia ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับแหล่งผลิตไข่มุกสีดำจากหอยนางรม นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วยนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนที่นั่นสามารถมองเห็น ปลาโลมา ปลากระเบนราหู เต่าทะเลสีเขียว และฉลามหัวฆ้อนได้เมื่อดำน้ำลงไป
เมืองเล็ก ๆ ของ Castellucio di Norcia แห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับ Norcia ใน เมือง Umbria ประเทศอิตาลี เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านเทศกาลดอกไม้บานตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม
หมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ประมาณ 300 กิโลเมตรทางตะวันตกของ Fortaleza ในบราซิล Jericoacoara เป็นสถานที่ที่ถนนปูด้วยหาดทรายและชายหาดทอดยาวในทุกทิศทาง เมืองชายหาดอันเงียบสงบนี้สามารถดึงดูดพวกนักเล่นว่าวและนักวินด์เซิร์ฟจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันที่นี่
ถ้ำหินอ่อนซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่มีพรมแดนติดกับ ทะเลสาบ General Carrera ในประเทศชิลี เป็นเครือข่ายถ้ำที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ซึ่งคลื่นนับพันปีได้ชะล้างแคลเซียมคาร์บอเนตจนก่อตัวเป็นรูปแบบหินอ่อนหมุนวนลงบนผนังถ้ำ
Pangong Tso เป็นทะเลสาบที่ทอดยาวกว่า 90 กิโลเมตรจากอินเดียไปยังจีน ทำให้เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ด้วยน้ำทะเลใสที่สะท้อนทิวทัศน์ของภูเขาได้อย่างสวยงามจึงเป็นจุดชมวิวที่น่าประทับใจสำหรับผู้มาเยือน
ที่มา : www.businessinsider.com
