หลังจากมีกระแสฮือฮาไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ได้มีการประกาศรับสมัครผู้ร่วมงานตำแหน่ง ผู้สำรวจความสุขคนไข้ ด้วยเงินเดือน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก
เพราะนอกจากชื่อโรงพยาบาลที่ไม่คุ้นหูคนทั่วไปเป็นอย่างมาก เงินเดือนยังสูงลิ่วที่สุดในประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย อีกทั้งชื่อตำแหน่งก็แปลกๆ ทำเอาหลายคนตกใจว่านี่แค่เป็นการโปรโมทโรงพยาบาลใหม่รึเปล่า?
ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวการโรงพยาบาลเผยว่า ตำแหน่งนี้มีอยู่จริง และว่าจ้างจริง โดยตำแหน่งดังกล่าวมีภารกิจหลักดังนี้
1. ต้องสอบถามผู้ป่วยในโรงพยาบาลทุกวัน ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพื่อถามความต้องการว่าอยากได้อะไรบ้าง เพื่อที่จะหายจากโรคนี้ พร้อมทั้งให้กำลังใจผู้ป่วยด้วย
2. เมื่อสำรวจแล้ว ต้องบันทึกให้สังคมรับทราบว่าจะทำอย่างไรผู้ป่วยถึงจะมีความสุขได้ โดยโรงพยาบาลอื่นๆ สามารถนำไปอ้างอิงในการรักษากรณีต่างๆ ได้ เพราะทางโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเอง ก็ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม
3. เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ทำ CSR ให้สังคม (การดูแล เผยแพร่ ว่าทาง รพ.ที่ว่าจ้างนี้ ได้ทำการช่วยเหลือสังคมไปอย่างไรบ้าง เป็นแนวการกุศล)
โดยการว่าจ้างนี้ เป็นการว่าจ้างในระยะเวลา 6 เดือน เดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งเหตุที่ทางโรงพยาบาลว่าจ้างสูงถึงขนาดนั้น ก็เพื่อภารกิจในการค้นคว้าว่าจิตใจของผู้ป่วยที่แท้จริงนั้นต้องการอะไรจึงจะมีความสุข ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญกว่าการป่วยทางกาย เป็นต้นทางที่จะนำไปสู่การรักษาที่ดีขึ้นได้
ซึ่งในการคัดเลือกจนเหลือผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้ายมาสัมภาษณ์สดผ่านรายการ "ตีสิบเดย์" เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา ในที่สุดก็ได้ผู้มีคุณสมบัติตรงตามที่คณะกรรมการต้องการนั่นก็คือ น้องธันย์-ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ นักศึกษาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เข้ารับการคัดเลือกที่อายุน้อยที่สุด
โดยเหตุผลที่คณะกรรมการลงมติเลือก ทาง ผอ.เผยว่า เพราะเธอผ่านความทุกข์สาหัสทางกายมาแล้ว อีกทั้งมีทัศนคติที่ดี เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ในการเข้าไปช่วยเหลือคนไข้ทั้งหลายได้
น้องธันย์เคยประสบอุบัติเหตุถูกรถไฟฟ้า MRT ที่สิงคโปร์ทับขาจนขาดทั้งสองข้าง เมื่อปี 2011 ขณะที่ไปเรียนซัมเมอร์คอร์สภาษาอังกฤษ ที่เคมบริดจ์ ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลา 1 เดือน
แม้อุบัติเหตุจะทำให้เธอต้องตัดขาทั้งสองข้าง แต่ก็ไม่ทำให้เธอย่อท้อ เธอกลับลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นเหมือนคนปกติทั่วไป และด้วยประสบการณ์ที่เธอมี เธอจึงนำมาใช้ในการเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดบล็อกส่วนตัวเพื่อให้คนอื่นๆ ได้รับกำลังใจดีๆ จากเธอด้วย