บทความนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ “สายลับ” ทั้ง 6 คน ไม่ใช่สายลับในหนังแต่เป็นสายลับที่มีอยู่จริง ซึ่งชีวิตของสายลับจริงๆจะเป็นแบบที่ทุกคนคิดกันหรือไม่ ลองไปทำความรู้จักกับพวกเขากันเลยครับ
มาธา ฮารีนักเต้นและโสเภณีชั้นสูงที่ทำงานในกรุงปารีสในปี ค.ศ.1905 ด้วยอาชีพของเธอ ทำให้เธอใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญในกองทัพและนักการเมืองโดยไม่ได้ตั้งใจ และมันทำให้เธอมีอำนาจต่อรองกับบุคคลระดับผู้บริหารประเทศอย่างคาดไม่ถึง ในปี ค.ศ.1917 ทางการฝรั่งเศสจับได้ว่าเธอลักลอบเป็นสายลับที่คอยขายข่าวให้กับฝ่ายเยอรมนี และอาจเป็นไปได้ว่าเธอแอบลักลอบขายความลับของเยอรมนีให้ประเทศที่สามเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เธอถูกประหารชีวิตโทษฐานเป็นกบฏต่อชาติ
จูเลียส และ อีเธล โรเซนเบิร์กสองสามีภรรยาชาวอเมริกันที่ฝั่งใฝ่ในลัทธิคอมมิวนิสต์ ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด กล่าวกันว่าทั้งครอบครัวโรเซนเบิร์กเป็นสายลับให้กับสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น โดยทั้งคู่คอยสืบข่าวคราวเกี่ยวกับการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ให้ฝ่ายโซเวียตได้รับรู้ ก่อนที่จะถูกทางการจับได้ และถูกประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าในปี ค.ศ.1953
อัลดริช เอมส์อดีตสายลับของซีไอเอที่ถูกส่งตัวไปยังประเทศตุรกี เพื่อสืบข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเอมส์ได้แอบติดต่อกับสายลับเคจีบีเพื่อขายความลับของรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวกันว่าโซเวียตได้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เอมส์ต้องการมากกว่าที่สหรัฐฯ เคยให้ นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาแปรพักตร์เข้ากับฝ่ายศัตรู ก่อนที่เอฟบีไอจะตามเบาะแสะและแกะรอยจนสามารถจับกุมตัวเขาไว้ได้ระหว่างการหลบหนีไปโซเวียต เอมส์และภรรยาถูกทางการสหรัฐฯ สั่งจำคุกตลอดชีวิตโทษฐานเป็นกบฏ
ริชาร์ด ซอร์คซอร์คคือสายลับของสหภาพโซเวียตที่ถูกส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นในฐานะสายลับ หน้าที่ของเขาคือการสืบข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของรัฐบาลญี่ปุ่นให้กับทางโซเวียต ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซอร์คได้ส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสหภาพโซเวียตโดยระบุว่าทางการญี่ปุ่นไม่มีนโยบายเปิดศึกกับสหภาพโซเวียต ไม่นานนัก เมื่อสารวัตรทหารญี่ปุ่นค้นพบพิรุธในบ้านของแฟนสาวของซอร์ค ซอร์คได้ถูกควบคุมตัวและทรมานจนถึงแก่ความตาย ไปพร้อมกับความลับที่ว่าเขาคือสายลับของสหภาพโซเวียตที่เดินทางมาหาข่าวในประเทศญี่ปุ่น
เคราซ์ ฟุชส์นักฟิสิกส์ทฤษฏีชาวเยอรมนีที่เคยทำงานด้านวิจัยอาวุธนิวเคลียร์ของเยอรมนี หลังจากเยอรมนีพ่ายแพ้สงคราม เขาหลี้ภัยไปยังประเทศอังกฤษและทำงานร่วมกับคณะนักวิจัยของอังกฤษในการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และย้ายไปทำงานให้กับสหรัฐฯ ตามลำดับ แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เขาได้เปิดเผยข้อมูลลับด้านการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และ อังกฤษ ให้กับทางสหภาพโซเวียต หลังจากที่เขาถูกจับกุมได้ เขาสารภาพว่า ‘สหภาพโซเวียตควรรับรู้ว่าอเมริกาและอังกฤษกำลังทำอะไรอยู่’ ด้วยเหตุนี้ทำให้ฟุชส์ถูกขังคุกเป็นเวลา 10 ปี โทษฐานเผยแพร่ความลับทางราชการ และถูกปล่อยตัวกลับเยอรมนีหลังพ้นโทษ