พักตร์วิภา อาวิพันธุ์ ที่ปรึกษาอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ทุกวันนี้วัยรุ่นญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในเมืองมากขึ้น ภาคเกษตรกรรมมีแต่คนแก่ทำงาน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 65 ปี วัยรุ่นไม่อยากทำอาชีพนี้ ทำให้ลูกเกษตรกรก็ไม่อาจหาคู่ครองได้ จึงต้องพึ่งผู้หญิงชาวต่างชาติเข้ามาแต่งงานด้วยเพราะอยากจะมีทายาท
ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกติดต่อผ่านนายหน้าเข้ามาญี่ปุ่น โดยหวังว่าอย่างน้อยก็จะสามารถเก็บเงินส่งกลับไปบ้านได้บ้าง ชีวิตคงจะดีกว่าที่เคยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจากแต่ก่อนการติดต่อของนายหน้าอาจจะจัดการเรื่องเรียบร้อยตั้งแต่ที่ประเทศไทย แต่เมื่อเปิดฟรีวีซ่าก็มาจัดการที่นี่
หลายครั้งที่กงสุลไทยต้องเจอกับผู้หญิงไทยวัย 20 กว่าๆ ซึ่งมาขอจดทะเบียนกับชายญี่ปุ่นวัย 60-70 ปี ทำเอาเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นคุณปู่ บางรายยังไม่บรรลุนิติภาวะเสียด้วยซ้ำ ทั้งยังสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง และไม่รู้เรื่องของกันและกันเลย ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่กรกฎาคม 2556 เป็นต้นมามีผู้มาขอจดทะเบียนสมรสแล้วกว่า 80 ราย
“ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มาแต่งงานกับคนญี่ปุ่นอาจคิดว่าชีวิตจะดี แต่เอาเข้าจริงแล้วก็อาจจะรวยและชีวิตดีกว่าที่อยู่เมืองไทย แต่ความจริงแล้วไม่สบายตัวและใจเลยจริงๆ เพราะความจริงเขาแต่งคุณเข้ามารับใช้ดูแลงานในบ้าน ดูแลพ่อแม่สามี คุณภาพชีวิตไม่ดี และสามีก็มักมีปัญหาเวลาจะส่งเงินกลับเมืองไทย สื่อสารกันก็ไม่ได้เพราะคนญี่ปุ่นจะไม่พูดภาษาอื่น ไม่ใช่เรื่องดีเลย”
นอกจากนี้ ผู้หญิงไทยหลายคนยังถูกหลอกให้หิ้วยาเสพติดเข้ามาญี่ปุ่นด้วย โดยอาจหลอกให้เดินทางไปจีนหรือฮ่องกงก่อน แล้วรับกระเป๋าจากเพื่อนเข้ามาส่งต่อให้แฟนที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มีแฟนอยู่ในประเทศที่มีผิวดำ เมื่อถูกจับก็จะพูดคล้ายๆ กันว่าไม่รู้ ปัจจุบันมีตัวเลขมากกว่า 10 รายแล้ว
เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงอยากจะฝากเตือนคนไทยที่อยากจะเดินทางเข้าญี่ปุ่นว่า อาจไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง และอย่าเชื่อคำบอกเล่าของผู้อื่นมากนัก โดยเฉพาะนายหน้าผู้เคยเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่นมาก่อน เพราะคนทั่วไปมักไม่เล่าเรื่องความลำบากของตัวเองให้ใครฟัง และอย่าเสียเงินหลักแสนด้วยเชื่อว่าจะได้งานทำจริงๆ เพราะเป็นไปได้ยากและอาจถูกหลอกได้
ข้อมูลจาก: ข่าวสด