เอแบคโพลล์ได้ทำการสำรวจเด็กไทยที่มีอายุระหว่าง 14-18 ปีในหัวข้อ เด็กและเยาวชนไทยอยากเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากการศึกษาไทย
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองและทัศนคติของเด็กๆ ที่มีต่อระบบการเรียนการสอนของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยผลการสำรวจมีดังนี้ครับ
– โอกาสและมาตรฐานทางการศึกษาของไทยไม่เท่าเทียมกัน 58.9%
– เด็กไทยเรียนหนักมากที่สุดในโลก แต่กลับไม่สามารถนำเอาความรู้ในห้องเรียนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 58.7%
– การแนะแนวการศึกษาไทยยังไม่ทั่วถึง 56.7%
– เด็กไทยไม่ได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน 54.8%
– การเรียนการสอนเป็นแบบที่เริ่มต้นจากความรู้ในหนังสือและจบลงที่ข้อสอบ 53.1%
นอกจากนี้ คำถามที่เด็กอยากจะถามครูมากที่สุดมักเป็นคำถามเกี่ยวกับวิธีการสอนของครู เช่น
ทำไมครูไม่หาวิธีการสอนที่สนุกและไม่น่าเบื่อ?
ทำไมเวลาสอนต้องอ่านตามหนังสือ ครูมาสอนหนังสือหรือมาอ่านหนังสือให้นักเรียนฟัง?
ทำไมสอนในห้องไม่รู้เรื่องแต่สอนพิเศษรู้เรื่อง?
ซึ่งคำถามเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการศึกษาไทยได้อย่างชัดเจน
ตลอดจนผลสำรวจที่กล่าวมานั้นก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า ระบบการศึกษาที่เราใช้มันไม่เหมาะกับชีวิตจริงของเด็ก ด้วยหลักสูตรที่เน้นแต่เนื้อหาทางทฤษฎีทำให้เด็กติดการท่องจำ วันๆ ก็เอาแต่ไปกวดวิชา
ผลที่ได้คือเด็กเก่งวิชาการ แต่ไม่สามารถนำสิ่งเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ พอเรียนจบออกมาก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร หรือหลายๆ คนที่ไม่ได้เรียนในสิ่งที่ชอบ สุดท้ายก็ต้องลาออกกลางคันซึ่งเราก็เห็นกันอยู่บ่อยๆ จนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติ
ข้อมูลจาก : Eduzones
ภาพจากอินเตอร์เน็ตและไม่เกี่ยวกับเนื้อหา