“ประเทศไทยจะหลุดจากอันดับรั้งท้ายคุณภาพการศึกษาได้อย่างไร” เป็นหัวข้อกิจกรรมดินเนอร์ทอล์กที่จัดขึ้นใน งานประชุมวิชาการอภิวัฒน์การเรียนรู้ สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทย ที่สสค. ร่วมกับ สสส. และมูลนิธิพัฒนาไท จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
Dr. Nicholas Burnett นักเศรษฐศาสตร์การศึกษา อดีตผู้บริหารระดับสูงของยูเนสโกและธนาคารโลก ได้เสนอความเห็นว่า งบประมาณด้านการศึกษาที่ใช้ไปไม่ควรมองที่ปริมาณแต่ควรมองว่าเม็ดเงินเหล่านั้นถูกนำไปใช้อย่างไรมากกว่า จึงจะทำให้เกิดประสิทธิภาพ
เงื่อนไขสำคัญคือ ต้องทำให้เด็กทุกคนเข้าสู่ระบบโรงเรียน เพราะปัจจุบันยังมีเด็กถึงร้อยละ 11 ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบ ในขณะที่เด็กอีกจำนวนมากหลุดออกนอกระบบกลางคัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายเป็นมูลค่าถึง 3% ของจีดีพี หรือประมาณ 3.3 แสนล้านบาท
Dr. Nicholas ย้ำว่า ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาของเด็กทั้งในและนอกระบบอย่างทันเวลา อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรัง และที่สำคัญการสร้างคุณภาพการศึกษาไม่ควรมองที่ปัจจัยนำเข้าเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองที่ผลลัพธ์ที่เกิดจากการเรียนรู้ของเด็กมากกว่า
ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนจึงควรเป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ หรือการเรียนรู้ 2 ทางที่ครูและนักเรียนมาเรียนรู้ร่วมกัน จึงจะทำให้คุณภาพการศึกษาเกิดขึ้นมาได้อย่างแท้จริง
ทักษะสำคัญที่จะต้องสร้างให้เกิดขึ้นในเด็กรุ่นใหม่คือ ทักษะในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และงานอาชีพ รวมทั้งทักษะในการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ต้องทำให้การเรียนการสอนส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศของการเรียนรู้เพื่อเกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม ในขณะเดียวกันจะต้องดึงภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบจัดการศึกษาที่มีคุณภาพด้วย
ที่มา: dailynews