การเรียนภาษาอังกฤษ หากได้ทั้งไปเรียนและไปใช้ชีวิตในต่างประเทศด้วยแล้ว ก็ย่อมทำให้เราได้ใช้ภาษามากขึ้น ได้รู้วัฒนธรรม รวมถึงประสบการณ์จริงๆที่หาไม่ได้ในเมืองไทย และมีโอกาสพัฒนาเร็วกว่านั่นเอง
โดยเฉพาะใน 4 ประเทศหลักอย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ วันนี้เราเลยจะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของการเรียนภาษาอังกฤษในประเทศต่างๆกัน….
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ข้อดี
– มีวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติปะปนกัน
– ได้รู้จักภาษาอังกฤษหลายรูปแบบ แบบจีน แบบอเมริกัน แบบเม็กซิกัน แบบคนไทย
– โรงเรียนภาษามีแทบทุกเมืองให้ได้เลือกกันเยอะมาก
ข้อเสีย
– วีซ่านักเรียนทำงานพาร์ทไทม์ไม่ได้
– ค่าเรียนและค่าครองชีพค่อนข้างแพง
– ขอวีซ่ายาก น่าจะยากที่สุดแล้วเทียบกับประเทศอื่นๆ
ประเทศอังกฤษ
ข้อดี
– ได้เรียนอังกฤษในแบบอังกฤษแท้ๆ
– มีวัฒนธรรมเป็นแบบตนเองมายาวนาน ตามสไตล์อังกฤษ
ข้อเสีย
– ขอวีซ่ายุ่งยาก ต้องเตรียมเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะหลักฐานทางการเงินที่ใช้เยอะ
– ไม่อนุญาตให้นักเรียนในสถาบันภาษาทำงานพาร์ทไทม์
– ค่าครองชีพแพงสุดๆ โดยเฉพาะในลอนดอน
ประเทศออสเตรเลีย
ข้อดี
– อยู่ใกล้เมืองไทย ไปกลับสะดวกที่สุดแล้ว
– นักเรียนทำงานพาร์ทไทม์ได้ 40 ชั่วโมงต่อสองอาทิตย์
– งานในเมืองเล็กค่อนข้างจะหาง่าย
– มีสถาบันภาษาหลากหลาย ซึ่งหลายแห่งรัฐบาลส่งเสริมเป็นพิเศษ
ข้อเสีย
– บางเมืองคนไทยเยอะจะจนจะเดินชนกันทุกวัน
– ช่วงหลังมีคนบ่นว่าวีซ่านักเรียนขอได้ยากมาก
ประเทศแคนาดา
ข้อดี
– เงียบสงบ มีคนไทยน้อยเมื่อเทียบกับอีก 3 ประเทศ
– อากาศดี หนาวเย็นตลอดปี
– เงียบสงบ เหมาะกับการไปหาความรู้และตั้งใจเรียน
ข้อเสีย
– บางเมืองใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ
– อากาศหนาวจนเกินไป จนคนไทยรับไม่ไหว
– นักเรียนต่างชาติในสถาบันภาษาทำงานไม่ได้
เปรียบเทียบกันทั้ง 4 ประเทศแล้ว คงจะเป็นข้อมูลที่ช่วยหลายคนเลือกเปรียบเทียบที่เรียนต่อได้ง่ายขึ้นนะครับ แต่สุดท้ายแล้วก็คงต้องขึ้นกับการตัดสินใจของแต่ละคนอีกที เพราะแต่ละประเทศล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนั่นเอง….
ภาพจากเน็ต