ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในต่างประเทศนั้น หลายคนมองว่าเป็นชีวิตที่มีความสุข แต่บางคนก็มองว่าเป็นช่วงเหนื่อยที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต
เพราะการไปเรียนต่อในประเทศที่ค่าครองชีพสูง ไหนจะต้องเรียน ทำงานพิเศษ หารายได้มาให้พอค่าใช้จ่าย ค่าเรียน แถมต้องทำเกรดให้ดีอีก เรียกว่ามีอะไรหลายๆด้านที่ต้องทำเลยครับ
แน่นอนว่ามันต้องเกิด ความเครียด ขึ้น… ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการจัดการความเครียดแตกต่างกันไป แต่วันนี้ WeGoInter มีเทคนิคจัดการความเครียดแบบง่ายๆมานำเสนอกัน
1. กินให้ถูก กินให้เป็น
ชีวิตมหาวิทยาลัย ที่จะต้องทั้งเรียนทั้งทำงานนั้น แทบไม่มีเวลามาดูแลตัวเองก็จริง แต่อย่าลืมว่าเรื่องกินนั้นเป็นเรื่องใหญ่ (เรื่องไม่มีกินใหญ่กว่า ^^)
การทานให้ถูกสุขลักษณะก็เริ่มง่ายๆจากการลด ละ เลิก อาหารขยะให้น้อยที่สุด และหันมาทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ทั้งผัก ผลไม้ และอาหารจำพวกโปรตีน ที่จะทำให้ร่างกายสดชื่น และดีกว่าพวกแป้งแน่นอน
พอการกินดี สุขภาพกายเราก็จะดีตามอย่างเห็นได้ชัด และสุขภาพจิตก็จะดีตามมานั่นเองล่ะจ้า
2.พักผ่อนให้เพียงพอ
บางคนเรียนมาทั้งวัน พอตกเย็นก็ต้องไปทำงานพิเศษจนดึก แล้วกลับหออย่างอิดโรย มานั่งเล่นเฟซบุ๊ค หรือโทรคุยกับกิ๊กที่เมืองไทยก่อน รู้ตัวอีกทีก็ใกล้สว่างแล้ว
พอนอนไม่พอ การไปเรียนและทำงานในวันต่อไปก็จะทำให้รู้สึกเครียดยิ่งขึ้น สะสมแบบนี้ไปมากๆสุขภาพจะโทรมเอานะครับ เพราะงั้นถ้าตัดกิจกรรมไหนที่ผลาญเวลาไปได้ ก็ตัดออกไปบ้าง และมาพักผ่อนให้มากกว่าเดิมกัน
3.ออกกำลังกายกันเถอะ!
การออกกำลังกายเป็นอีกวิธีนึงซึ่งลดความเครียดได้ เพราะเมื่อเราออกกำลังกาย ร่างกายก็จะหลั่งสารที่มีชื่อว่า อะดรีนาลิน ทำให้รู้สึกมีความสุข และคลายความเครียดลง
นอกเหนือจากนี้ ผลดีที่ตามมาหลายคนคงจะรู้ว่า คนที่ออกกำลังกายบ่อยๆก็จะมีหุ่นสวย หุ่นหล่อ เซกซี่ชวนให้หลงใหล แบบนี้ยิ่งดีเลยนะ ^^
4.เรื่องเงิน เรื่องใหญ่
เรื่องการเงินถือเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เครียด ถ้าเงินมีไม่พอนั่นเอง… การมาเรียนในประเทศที่ค่าครองชีพสูงๆ สิ่งที่ต้องทำสำหรับคนงบน้อยคือ ประหยัดให้มากที่สุด
แต่ก็ไม่ควรให้เรื่องเงินเข้ามาเป็นบทบาทสำคัญ จนต้องเครียดทำงานหาเงินแทบเป็นแทบตาย สุดท้ายก็ยังไม่พอ ก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ แบบนั้นหัวจะระเบิดเอาได้
เทคนิคเล็กๆน้อยๆ คือการใช้เวลาก่อนนอนวันละ 10 นาที ทบทวนว่าในวันนั้นเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง แล้วบันทึกเอาไว้ ทีนี้พอครบเดือนก็มาตรวจดู ว่าอะไรทำให้เราสิ้นเปลือง แล้วมันจะเป็นจริงๆรึเปล่า? มันตัดทิ้งได้ไหม?
วิธีนี้พบว่าจะทำให้ตัวเราทราบว่าตัวเองละลายเงินไปกับอะไรบ้าง… และเกือบ 100% ของคนที่เอาเทคนิคนี้ไปใช้ สามารถประหยัดได้มากขึ้นนั่นเองล่ะจ้า
วิธีลดความเครียดทั้ง 4 วิธีที่ยกตัวอย่างมานี้ เป็นแค่แนวทางคร่าวๆเท่านั้นนะครับ จะใช้ได้ผลจริงรึเปล่า ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่านำไปปฏิบัติได้แค่ไหน.. แต่รับรองว่าทุกวิธีนี้เป็นแนวทางจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และผมนำมาเผยแพร่ให้ได้รู้กัน
หวังว่าชาว WeGoInter ที่กำลังเครียด พอได้ลองทำตามจะสามารถละทิ้งความเครียด และมีความสุขกันทุกคนนะคร้าบบบ :)
ที่มา: about, ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต