ทำความรู้จักกับประเทศสหรัฐอเมริกา…
สหรัฐอเมริกา (United States of America) ถือเป็นประเทศขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ในปัจจุบันคาดว่ามีประชากรอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 300 ล้านคน โดยแบ่งการปกครองออกเป็นรัฐ โดยแต่ละรัฐจะมีอิสระในการปกครองตนเอง แต่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง
ประกอบไปด้วยรัฐในแผ่นดินใหญ่ทั้งสิ้น 48 รัฐ และ Alaska กับ Hawaii ซึ่งไม่ได้อยู่ติดกับแผ่นดินใหญ่
สำหรับใครที่สนใจจะดูเรื่องนี้เพิ่มเติม ลองเข้าไปดูบทความ การแบ่งภูมิภาคทั้ง 6 ภาคในสหรัฐอเมริกา และ การแบ่งเขตเวลาต่างๆในสหรัฐอเมริกา เนื่่องจากประเทศมีขนาดใหญ่เลยต้องมีเขตเวลาของแต่ละพื้นที่นั่นเอง….
ระบบการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากแบ่งการปกครองเป็นรัฐ แต่ละรัฐจึงมีนโยบายการศึกษาของตนเองที่แตกต่างกันไป โดยไม่ต้องขึ้นกับรัฐบาลกลาง แต่ก็ยังมีการศึกษาภาคบังคับที่กำหนดเอาไว้ว่าเด็กทุกคนที่มีสัญชาติอเมริกัน จะได้รับสิทธิ์เรียนฟรีในโรงเรียนของรัฐ จนกระทั่งจบเกรด 12 (ระดับมัธยมปลาย)
เพราะฉะนั้น ถ้านักศึกษาต่างชาติต้องการไปเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา จะสามารถเลือกเรียนได้ในโรงเรียนเอกชนเท่านั้น (ยกเว้นนักเรียนที่ไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยนบางโครงการ สามารถใช้สิทธิเรียนโรงเรียนรัฐได้)
การแบ่งระดับการศึกษา
ระดับอนุบาล ( Kindergarten)
ระดับอนุบาลของสหรัฐอเมริกา ไม่ได้อยู่ในการศึกษาภาคบังคับ นั่นหมายถึงว่าใครจะเรียนก็ได้ หรือจะไม่เข้าเรียนก็ได้นั่นเอง สามารถข้ามไประดับต่อไปได้เลย
ระดับประถมศึกษา (Elementary School)
ระดับประถมเป็นการศึกษาภาคบังคับ ที่นักเรียนทุกคนจะต้องผ่าน โดยมีระยะเวลาการเรียนทั้งหมด 6 ปีเหมือนของไทยเราเลยครับ ตั้งแต่ระดับเกรด 1 ถึงเกรด 6
ระดับมัธยมศึกษา(Secondary School)
โรงเรียนมัธยม ก็เป็นหลักสูตรภาคบังคับ สำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
– โรงเรียนรัฐบาล
– โรงเรียนเอกชน 3 รูปแบบ
Independent School หรือ Prep. School เตรียมนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี
Parochial School โรงเรียนศาสนาโรมันคาธอลิค
Bible School หรือ Christian School สอนศาสนาควบคู่กับวิชาการ
ระดับอุดมศึกษา จะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆได้ 4 รูปแบบ ได้แก่
– Junior College คือหลักสูตร 2 ปี จะรับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมปลาย ซึ่งบางแห่งสามารถถ่ายโอนหน่วยกิตไปยังระดับมหาวิทยาลัยได้
– College หรือวิทยาลัย เป็นหลักสูตร 4 ปี เมื่อจบแล้วจะได้รับวุฒิปริญญาตรี ซึ่งบางแห่งก็เปิดสอนถึงปริญญาโทด้วย
– University มหาวิทยาลัย เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี, ปริญญาโท 2 ปี และระดับปริญญาเอก 4 ปี เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยของไทย
– Institute หรือสถาบันวิชาชีพขั้นสูง จะสอนเฉพาะทางเช่น แพทย์ กฎหมาย วิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งจะเปิดสอนตั้งแต่ 3-8 ปีขึ้นอยู่กับสาขาวิชา
ที่มา: เรียนอเมริกาตั้งแต่เด็กๆจะดีกว่าที่ไทยไหม?? เรามาทำความรู้จักระบบการศึกษา USA กันก่อน…
การเปิดเทอม-ปิดเทอม ในประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยปกติแล้ว การปิดเทอมและเปิดเทอมในสหรัฐอเมริกา จะมีที่นิยมใช้กันอยู่ 4 แบบ แต่หลักๆจะเป็นแบบแรกเกือบทั้งหมด ยังไงก็ตามเราลองมาศึกษาทุกๆรูปแบบกันไว้เลยครับ
ระบบเปิดเทอมแบบ Semester
ระบบนี้นิยมใช้กันมากที่สุด จะแบ่งการภาคการศึกษาออกเป็น 2 Semester หรือ 2 เทอมเหมือนบ้านเรา และอาจจะมีภาค Summer อีก 1 ภาค หลังจากปิดการศึกษาแบบปกติไปแล้ว ประกอบไปด้วย
Fall Semester ตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงเดือนธันวาคม (จากนั้นก็ปิดช่วงคริสมาสต์ ปีใหม่ และฤดูหนาว)
Spring Semester ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม
Summer Session ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม (ช่วงฤดูร้อนของที่นู่นคือช่วงนี้จ้า)
ระบบเปิดเทอมแบบ Quarter
จะแบ่งการศึกษาออกเป็น 4 เทอมเท่าๆกัน โดยแต่ละเทอมจะเรียนอยู่ประมาณ 11-12 สัปดาห์ เรียกว่าเกือบ 3 เดือน วนไปจนครบปีเลยล่ะ
Fall Quarter ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ถึงเดือนธันวาคม
Winter Quarter ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงกลางเดือนมีนาคม
Spring Quarter ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนมิถุนายน
Summer Quarter ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม
ระบบเปิดเทอมแบบ Trimester
ระบบนี้ใช้ไม่ค่อยแพร่หลายเหมือน 2 ระบบข้างบนนะ โดยจะแบ่งการเปิดเทอมออกเป็นเทอมละประมาณ 15 สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เทอมต่อปี สถาบันดังๆที่ใช้ระบบนี้ก็เช่นที่ University of Michigan นั่นเอง
ระบบเปิดเทอมแบบ 4-1-4
ระบบนี้ก็พบเห็นได้น้อยมาก อาจจะเปิดในบางหลักสูตรหรือบางคณะ ของบางมหาวิทยาลัย โดยจะเปิดเรียนเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน 2 เทอม พร้อมกับช่วงฝึกงานอีก 1 เดือน ปกติจะอยู่ในเดือนมกราคม
สถาบันที่ใช้ระบบนี้ก็เช่น Massachusetts Institute of Technology และ Johns Hopkins University
ที่มา: มารู้จักระบบการเปิดปิดเทอมในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลดีๆที่คนอยากเรียนนอกต้องเข้าใจ
การสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
การสมัครเรียนต่อปริญญาตรี
ประเทศสหรัฐอเมริกา มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีกว่า 5,000 แห่ง นั่นทำให้การสมัครเข้าเรียนนั้นเราอาจจะเลือกได้อย่างยากลำบาก แต่ขั้นตอนแรกก็คือการวางแผนว่าต้องการเรียนต่อเมืองไหน? มหาวิทยาลัยอะไร? หรือหลักสูตรไหน? ซึ่งสามารถค้นข้อมูลในเว็บนี้ได้ก่อนนะครับ
หลังจากเราวางแผนได้แล้วว่าจะเรียนที่ไหน ก็ต้องเตรียมตัวสมัคร แนะนำว่าควรสมัครก่อนมหาวิทยาลัยเปิดเทอมประมาณ 12-15 เดือน ซึ่งปกติแล้วแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีกำหนดการณ์รับสมัครต่างกัน (ส่วนใหญ่ช่วงปลายปี)
แนะนำให้น้องๆสอบถามจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัย สามารถอีเมล์ถามเจ้าหน้าที่ได้… และไม่ต้องกลัวนะครับ เค้าพร้อมยินดีตอบเราทุกคำถามเลย ^^
สิ่งสำคัญที่ต้องใช้ในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสหรัฐอมเริกา ที่ขาดไม่ได้มี 2 อย่างก็คือ
– ผลสอบภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS (คะแนนสอบจะเก็บไว้ได้ 2 ปี)
– ผลสอบ SAT (คล้ายๆกับการสอบ O-net, GAT PAT หรือเก็บคะแนนแอดมิชชันของบ้านเรานี่แหละครับ)
นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมเอกสารอื่นๆให้พร้อม ตัวอย่างเช่น
– ใบสมัคร
– ผลการศึกษาในระดับมัธยมปลาย
– จดหมายแนะนำตัวของเรา
– เกียรติประวัติที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเรา ใครเป็นนักกีฬาระดับชาติ ใครเคยแข่งอะไรทางวิชาการ คณิตศาสตร์โอลิมปิค หรืออะไรพวกนี้ขนมาให้หมดเลย
– จดหมายแนะนำ ให้อาจารย์ของเราเขียนให้ 2 คน คนละฉบับ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่มหาวิทยาลัยใช้พิจารณาด้วย
– สมุดบัญชีพ่อแม่ ข้อนี้หลายคนอาจจะงง แต่มหาวิทยาลัยเอกชนในอเมริกาหลายแห่ง ก็มีโควต้าพิเศษให้ผู้บริจาคเงินช่วยเหลือ ใครพ่อแม่รวยก็มีโอกาสสอบเข้ามากขึ้น
หลังจากยื่นใบสมัครไปแล้ว ทางมหาวิทยาลัยพิจารณาความสามารถ รวมถึงเอกสารหลักฐานต่างๆของเรา หลังจากนั้นอาจจะนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ และจะประกาศผลตอบรับมาให้่เราประมาณ 1-2 เดือนภายหลังการสัมภาษณ์นั่นเองล่ะ
การสมัครเรียนต่อปริญญาโท
การสมัครเรียนต่อระดับปริญญาตรีในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะคล้ายคลึงกับการสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรี เพียงจะต่างกันตรงที่คราวนี้ต้องใช้วุฒิปริญญาตรีแทนวุฒิมัธยมปลาย นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้คะแนน SAT อีกแล้ว แต่มีคะแนนอื่นๆเข้ามาแทน ได้แก่
– ผลคะแนนสอบ GRE (Graduate Record Examination) เป็นการสอบวัดเชาว์ความรู้ เพื่อเรียนต่อระดับสูงกว่าปริญญาตรี
– ผลคะแนนสอบ GMAT (Graduate Management Admission Test) ซึ่งเป็นการทดสอบความรู้ของผู้ที่จะเรียนต่อในสาขาด้านบริหารธุรกิจ การเงิน การตลาด ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี
เอกสารอื่นๆนั้นก็จะเหมือนกับการสมัครเข้าเรียนระดับปริญญาตรี ซึ่งประกอบไปด้วย
– ใบสมัคร
– ผลการศึกษาในระดับมัธยมปลาย
– จดหมายแนะนำตัวของเรา
– เกียรติประวัติที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเรา ใครเป็นนักกีฬาระดับชาติ ใครเคยแข่งอะไรทางวิชาการ คณิตศาสตร์โอลิมปิค หรืออะไรพวกนี้ขนมาให้หมดเลย
– จดหมายแนะนำ ให้อาจารย์ของเราเขียนให้ 2 คน คนละฉบับ
– ผลคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS (มหาวิทยาลัยไหนใช้เท่าไร ลองดูเลย)
การขอ Visa นักเรียนประเทศสหรัฐอเมริกา
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า ประกอบไปด้วย
– Passport สำคัญที่สุด
– รูปถ่ายสำหรับขอวีซ่าอเมริกา ขนาด 5×5 ซม. ซึ่งร้านถ่ายรูปส่วนใหญ่จะรู้ดีครับว่าเป็นแบบไหน
– เอกสาร I-20 ที่ออกโดยสถาบันที่เราจะเข้าเรียน
– แบบฟอร์มขอวีซ่านักเรียนอเมริกา DS160
– ใบเสร็จค่า SEVIS Fee
– ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า
– ใบนัดวันจองสัมภาษณ์วีซ่า
– เอกสารอื่นๆเพื่อประกอบการพิจารณา เช่น หลักฐานการศึกษา หลักฐานการเงิน ประวัติการทำงาน เตรียมไว้ให้พร้อมนะ
ส่วนในเรื่องของค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกา จะอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท แบ่งออกเป็น ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่า SEVIS Fee (เป็นค่าระบบการทำข้อมูลนักเรียนต่างชาติ) ค่าจองวันสัมภาษณ์ รวมๆกัน
ขั้นตอนการขอวีซ่านักเรียนอเมริกา มีขั้นตอนดังนี้
– การจองสัมภาษณ์วีซ่า สามารถทำได้ 2 วิธี คือการจองผ่านทางเว็บไซต์ และจองผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งแนะนำว่าจองผ่านทางเว็บไซต์จะสะดวกและประหยัดกว่า เนื่องจากหากจองผ่านเว็บไซต์จะเสียค่า PIN เพื่อเข้าระบบเพียงแค่ $12 หากจองผ่านโทรศัพท์จะเสียมากถึง $20
– จองผ่านอินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์ http://thailand.us-visaservices.com
– การเลือกสถานที่สอบสัมภาษณ์ สามารถเลือกได้ระหว่างสถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาในภาคเหนือ
ที่มา: เคลียร์ข้อสงสัย สมัครวีซ่านักเรียน USA ต้องเตรียมเอกสาร-เตรียมเงิน ยังไงบ้าง!?
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการเรียนต่อสหรัฐอเมริกา
รวมเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งใครที่สนใจก็สามารถคลิกไล่ดูกันไปได้ทีละเรื่องเลยนะครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยแนะแนวทางได้ไม่มากก็น้อย แล้วทีมงานเราจะหามาอัพเดทกันตลอดเลยครับ ^^
แนะนำที่เรียนในสหรัฐอเมริกา
– จัดให้เต็มๆ 61 รายชื่อสถาบันใน USA ที่ให้ทุนการศึกษาเรียนฟรีแบบเต็มจำนวน !!
– อยากประหยัดงบมาดูเลย… 10 มหาวิทยาลัย USA ที่ค่าหอพักนักศึกษาถูกที่สุด
– แนะนำ 7 มหาวิทยาลัยน่าเรียนใน USA สำหรับคนที่ชอบความหนาวและหิมะ
– มารู้จักนักเรียนนายร้อยสหรัฐ จากโรงเรียนทหาร West Point จะหล่อสู้นายร้อยไทยได้ไหม…
– เรียนอเมริกาตั้งแต่เด็กๆจะดีกว่าที่ไทยไหม?? เรามาทำความรู้จักระบบการศึกษา USA กันก่อน…
– 10 มหาวิทยาลัย ที่มีนักศึกษาระดับปริญญาตรีมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
– ใครอยากเรียนต่อเมือง Boston สหรัฐอเมริกา มาชมมหาวิทยาลัยดังที่น่าสนใจเลย…
– อยากรู้กันไหม… เงินทุกบาทที่เราจ่ายค่าเทอม มหาวิทยาลัยเอาไปทำอะไรบ้าง !?
– 10 เทคนิคเขียนเรียงความ ให้ได้เรียนต่อมหาลัยชั้นนำ พร้อมรับทุนการศึกษา
– ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีอเมริกา จัดอันดับ 10 มหาลัย USA ด้านเทคโนโลยี ผลก็คือ….
– 10 อันดับหอพักนักศึกษา ราคาแพงที่สุดใน USA นักศึกษาเห็นแล้วซีดเลย!!
– เปรียบเทียบ 4 ข้อดี-ข้อเสีย ของการเรียนต่อในเมืองใหญ่ ว่าเหมาะกับเราหรือไม่!!
– แนะนำ 4 มหาวิทยาลัยดังน่าเรียนใน New York City เมืองที่หลายคนใฝ่ฝัน
– ผลโหวตนักเดินทาง จัดอันดับ 10 สุดยอดสนามบินใน USA มาดูว่าจะเป็นที่ไหน…
– มาดูเว็บต่างชาติ จัดอันดับ 7 มหาวิทยาลัยออกแบบห่วยแตกที่สุดใน USA
– ไปแล้วไม่กลัวเหงา… 10 มหาลัยใน USA ที่มีสัดส่วนนักเรียนต่างชาติมากที่สุด
– มาดูเคล็ดลับดีๆ… เมื่อมีปัญหากับรูมเมท จะแก้ปัญหาและปรับความเข้าใจอย่างไร
– จัดอันดับ 10 สุดยอดมหาวิทยาลัยโลก สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ใครอยากเรียนต้องดู…
– แนะนำ 10 อันดับสุดยอดหลักสูตรออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้อย่างสบายๆ
– อยากจบมาแล้วมีธุรกิจประสบความสำเร็จ ต้องไปเรียนมหาวิทยาไหนมาดูเลย…
– อยากรู้ไหมว่า… เรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลก ต้องเสียค่าเล่าเรียนเท่าไรบ้าง !??
– อยากได้ทุนต้องดู… 10 สถาบันดังในอเมริกา ที่มอบทุนเรียนต่อให้นักศึกษามากที่สุด
– แนะนำ 11 สาชาวิชาสุด Hot!! ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันและอนาคต
– อยากได้ทุนห้ามพลาด…. 5 มหาวิทยาลัยที่ให้ทุนแก่นักศึกษาต่างชาติมากที่สุด
– เด็กมัธยมในสหรัฐอเมริกา เค้าเรียนอะไรกันบ้าง วันนี้เราจะพาไปดู….
– Sho Yano เด็กหนุ่มอัจฉริยะ นายแพทย์อายุน้อยที่สุดแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก้
– 10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในสหรัฐอเมริกา บรรยากาศดีน่าไปเรียน
– ใช้ชีวิตอย่างไร…. จึงจะรอดจากชีวิตปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย !!??
– Stanford University มหาวิทยาลัยแห่งจักรยาน เพื่อสิ่งแวดล้อมและอนาคต
– จัดอันดับ 10 มหาวิทยาลัย USA ที่ดีที่สุด ด้านเทคโนโลยีอวกาศและการบิน
– 10 อันดับ หลักสูตรบริหารธุรกิจ MBA ที่ดีสุดในสหรัฐอเมริกา… มาชมกันเลย
– Yahoo เปิดเผยข้อมูล สาขาวิชาไหนเรียนจบมาแล้ว โอกาสตกงานเกิน 10%
– อยากให้รู้จัก Berry College สถาบันที่ได้รับยกย่อง ว่ามีเนื้อที่มากที่สุดในโลก !!
– แนะนำ 7 แนวทางดีๆ สำหรับคนงบน้อย ให้เก็บเงินไปเรียนต่อต่างแดนได้
– จัดอันดับ 10 หลักสูตรปริญญาโทไฟแนนซ์ ในสหรัฐอเมริกา เป็นที่ไหนมาดูกัน..!!
– เรียนแล้วไม่คุ้ม!! 8 สาขาวิชาที่ไม่คุ้มค่ากับการเรียน ในสหรัฐอเมริกา
– ชีวิตแสนเศร้าของ James Meredith นักศึกษาผิวดำคนแรก ในประวัติศาสตร์อเมริกา
– เหตุผล 8 ข้อ ที่เราไม่ควรเลือกเรียนสาขาบริหารธุรกิจ มาอ่านกันไว้เลย…
– เรียนที่ไหนดี… มาดู 10 อันดับรัฐใน USA ที่มีนักศึกษาปี 1 มากที่สุดกันเลย
– เปรียบเทียบ 4 ประเทศดัง เรียนภาษาอังกฤษประเทศไหนดีที่สุด มาชมเลย….
– แนะนำ ‘โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชน’ ที่น่าสนใจ ให้น้องๆมัธยมได้ไปต่างแดน
– เรียนอะไรดี!? พบกับ 7 หลักสูตรที่คุ้มค่ากับการเรียนมากที่สุด ในสหรัฐอเมริกา
– เรียนต่อมหาลัยระดับท็อปใน USA มีค่าใช้จ่ายเท่าไรบ้าง… วันนี้เรามีคำตอบ
– เหตุผล 7 ข้อ ว่าทำไมการเรียนมหาวิทยาลัยใน USA จึงเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าๆ
– แนะนำ 4 เทคนิคการเก็บเงินสำหรับคนงบน้อย ที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศ
– ผลสำรวจพบนักเรียน USA แค่ 10% ที่ตั้งใจเรียน ที่เหลือ 90% ทำอะไรกันบ้างมาดู
– สาขาไหนมาแรง… รู้เลย!! เผย 9 หลักสูตร ที่ฮิตสุดในสหรัฐอเมริกาตอนนี้
– เผยรายชื่อสาขาวิชา ‘จบมาแล้ว ได้งานแน่นอน’ 10 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา
– เผย 10 รายชื่อสาขาวิชา ‘จบมาแล้ว ไม่มีงานทำ’ มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
– ทำความรู้จักกับ ‘ทุนเรียนต่อต่างประเทศ’ ทั้งหมด 4 ประเภท ว่ามีอะไรกันบ้าง… ?
– เรื่องที่อยู่เรื่องใหญ่…!! เทคนิคในการเลือกหอพักในต่างแดน รู้ไว้ก่อนน้ำตาตก
การใช้ชีวิต-ทำงานในสหรัฐอเมริกา
– เตือนภัย 7 ย่านอันตรายในเมืองใหญ่ของ USA ที่คนไทยควรหลีกเลี่ยง !!
– Forbes จัดอันดับ 10 สาขาอาชีพด้านสุขภาพที่กำลังมาแรง-รายได้ดี ในสหรัฐอเมริกา
– เปิดเผยให้รู้เลย 12 สาขาวิชาที่จบมาแล้วโอกาสตกงานมากที่สุด ในสหรัฐอเมริกา
– 10 สิ่งที่นักเรียนมักจะทำผิดพลาด เมื่อสมัครเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศ
– มาดูกฎหมายแปลกๆจากบางรัฐใน USA ที่จะทำให้คุณ อึ้ง!! ทึ่ง!! เสียว!!
– 5 เทคนิคทำเงินระหว่างเรียนต่างประเทศ โดยไม่ต้องทำงานพาร์ทไทม์แบบเดิมๆ
– 5 เทคนิคเจ๋งๆ ในการประหยัดเงิน เพื่อการเรียนต่างประเทศอย่างมีความสุข
– 10 อันดับ เมืองค่าครองชีพถูกที่สุดใน USA งานนี้ใครอยากไปห้ามพลาด !!
– 10 อาชีพใหม่สุด Hot!! ที่กำลังมาแรงในสหรัฐอเมริกา น่าสนใจมากๆเลย
– ใน USA พูดภาษาอะไรกันบ้าง ลองมาดู 10 อันดับภาษาที่ใช้มากสุดในประเทศนี้เลย….
– Detroit เมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกา กับอดีตที่รุ่งเรือง และอนาคตที่มืดมน
– เปิดเผยข้อมูล 6 อาชีพน่าสนใจ ทำรายได้ชั่วโมงละ 1,000 บาท !!
– รู้จัก 7 อาชีพแห่งอนาคตในอเมริกา รายได้ดี แถมไม่ต้องมีใบปริญญา
– สุดยอด 6 บริษัทใหญ่… นักศึกษาอเมริกัน จบมาแล้วอยากทำงานด้วยที่สุดเลย
– เผยผลสำรวจ… 10 อาชีพไม่มีความสุขที่สุด ในประเทศสหรัฐอเมริกา
– ระบบ Self Checkout ในห้างอเมริกา ลูกค้าซื้อของ-ยิงบาร์โค้ด-คิดเงิน-จ่ายเงินเอง
– ห้ามพลาด… 6 อันดับ อาชีพแห่งอนาคตปี 2020 ในประเทศสหรัฐอเมริกา
– อนาคตสดใส!! 5 สาขาวิชา ที่นายจ้างใน USA อยากรับเข้าทำงานมากที่สุด
– อยากเรียนต่ออเมริกาต้องอ่าน… ความจริง 9 ข้อ ของรัฐ California ที่หลายคนไม่เคยรู้
– เปิดเผย 10 อาชีพที่มีความสุขที่สุดในสหรัฐอเมริกา เรียนด้านนี้ไม่มีผิดหวัง
การเดินทางท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา
– รู้ไว้รอดตายนะจ๊ะ!! 7 อันดับสนามบินปลอดภัยที่สุดใน USA มาดูกันเลย
– เที่ยวชมหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก… หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress) !!!
– ครั้งเดียวในชีวิต….ต้องไป 5 อันดับเมืองที่คนไทยอยากไปที่สุด ในอเมริกา
– ชาวอเมริกันโหวต 7 สุดยอดสนามบินที่มีระบบรักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยม ชมกันเลย
– ผลสำรวจผู้โดยสาร 10 อันดับสนามบินห่วยแตกใน USA จะมีที่ไหนบ้าง !?
– ใครจะไป USA ต้องดู…. 5 สุดยอดอันดับสายการบินบริการยอดเยี่ยม ในทวีปอเมริกา
– ทำไมคนอเมริกัน ชอบการเดินทางด้วยรถไฟ ทั้งที่ราคาพอๆกับเครื่องบิน !?
– ไขข้อข้องใจ การแบ่งเขตเวลา Time Zone ในสหรัฐอเมริกา อ่านทีเดียวรู้เรื่องเลย
– ทำความรู้จัก 6 ภูมิภาคในสหรัฐอเมริกา ใครอยากจะไปห้ามพลาด
– อยากเรียนต่อ USA…. มาดู 10 อันดับ รัฐที่อากาศดีที่สุด ในสหรัฐอเมริกา
ปัญหาเรื่อง Visa สหรัฐอเมริกา
– เคลียร์ข้อสงสัย สมัครวีซ่านักเรียน USA ต้องเตรียมเอกสาร-เตรียมเงิน ยังไงบ้าง!?
– รายชื่อของที่ห้ามนำเข้าสหรัฐอเมริกา รู้เอาไว้จะได้ไม่ต้องโดนยึด…!!
– โดนปฏิเสธวีซ่า ต้องทำอย่างไร..!? อ่านเอาไว้จะได้ไม่พลาด และแก้ปัญหาได้